TEGH แย้มผลงานครึ่งปีหลังสดใสรับรู้โครงการขยายกำลังการผลิตก๊าซชีวภาพ หนุน
บมจ.ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (TEGH) แย้มผลงานครึ่งปีหลังสดใส จากการเติบโตและขยายกำลังการผลิต และการปรับปรุงประสิทธิภาพของทั้ง 3 สายธุรกิจหลัก
นางสาวสินีนุช โกกนุทาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือTEGH เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2566 คาดว่าน่าจะจะใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน และคาดว่าผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังจะเติบโตเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก
กรรมการผู้จัดการ TEGH กล่าวว่า กลุ่มธุรกิจยางพารา บริษัทฯ อยู่ในระหว่างการเจรจากับลูกค้าอินเดียและจีน ซึ่งจะทำให้มีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลัง และในส่วนของสินค้าเกรดมาตรฐานความยั่งยืนSustainable Product หรือ Eco Product ก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ซึ่งแนวโน้มจะมีความต้องการเพิ่มขึ้น เนื่องจากสินค้าของบริษัทฯ สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ และยังสอดรับกับข้อกำหนดต่างๆ เช่นมาตรการ EUDR ที่จะเริ่มใช้อย่างเต็มรูปแบบในปลายปี 2567 และมาตรการ CBAM ที่จะเริ่มบังคับใช้ในปี 2569 เป็นต้น
“กลุ่มธุรกิจปาล์มน้ำมัน ภายหลังการปรับปรุง ทำให้ผลประกอบการดีขึ้นตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว และเมื่อBoiler ตัวใหม่เริ่มเดินเครื่องภายในไตรมาส 2/2566 จะทำให้บริษัทฯ มีความพร้อมสำหรับไตรมาส3/2566 ซึ่งเป็นช่วงพีคของผลผลิตปาล์ม” นางสาวสินีนุช กล่าว
ส่วนกลุ่มธุรกิจพลังงานทดแทนและรับบริหารจัดการการอินทรีย์ โครงการขยายกำลังการผลิตก๊าซชีวภาพ ระยะที่ 1 จะเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) ในไตรมาส 2/2566 ทำให้บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้จากโครงการนี้ได้เต็มที่ในไตรมาส 3/2566 จากการรับกากอินทรีย์เพิ่มขึ้นอีกวันละ 300 ตัน และผลิตก๊าซชีวภาพได้เพิ่มขึ้นอีกวันละ 30,000 ลูกบาศก์เมตร นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนที่ขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพจาก 43 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี เพิ่มขึ้นเป็น 64 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี ภายในปี 2566 นี้ พร้อมรองรับความต้องการการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น และยังเป็นพลังงานสะอาดที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าจากทั้งภายในและนอกกลุ่มบริษัทฯ อีกด้วย ซึ่งเป็นไปตามแผนธุรกิจในการขยายธุรกิจผลิตพลังงานทดแทนและรับบริหารจัดการกากอินทรีย์มากขึ้น เพื่อสร้างฐานรายได้ประจำที่เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ (Recurring Income)
สำหรับผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 1/2566 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการอยู่ที่ 3,177.95 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 102.60 ล้านบาท